Wealth Sharing

TTB ครองแชมป์ธนาคารไทยด้าน ESG ปีที่ 4 พร้อมคว้ารางวัล พัฒนาการสูงสุด 5 ปี


31 พฤษภาคม 2566
ทีเอ็มบีธนชาต (TTB) มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืนทุกมิติ เดินหน้ารับรางวัลต่อเนื่อง  ล่าสุดครองอันดับหนึ่งธนาคารไทยด้าน ESG เป็นปีที่ 4 พร้อมคว้ารางวัลพัฒนาการสูงสุด 5 ปี จากผลการประเมิน Fair Finance Thailand

TTB ครองแชมป์ธนาคารไทยด้าน ESG ปีที่ 4.jpg

นายปิติ  ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต (TTB)  เปิดเผยว่า ธนาคารมุ่งสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนอย่างสมดุลในทุกมิติ โดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านธุรกิจ (Business Sustainability) พร้อมเชื่อมโยงไปกับการดำเนินงานตามหลัก ESG ผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งลูกค้าระดับบุคคลและธุรกิจ และจากการได้รับรางวัลธนาคารที่มีผลคะแนนด้าน ESG สูงสุดเป็นอันดับ 1 ติดต่อกัน 4 ปี จากการประเมินโดย Fair Finance Thailand

สะท้อนถึงความมุ่งมั่น ความตั้งใจจริง และความเชื่อเดียวกันของทุกภาคส่วนในองค์กร ตั้งแต่คณะกรรมการและผู้บริหาร รวมถึงพนักงานที่ร่วมกันผลักดันสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจของธนาคารในการพัฒนาและทำให้เห็นว่าความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป 

เรื่องความยั่งยืนเป็นทิศทางของโลกมาหลายปีแล้ว และเป็นเรื่องที่หลาย ๆ อุตสาหกรรมต้องให้ความสำคัญ สำหรับธนาคารนั้นถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจต่าง ๆ เพราะเป็นแหล่งเงินทุน หากธนาคารมีเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจที่ไม่ดีก็จะส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เราจึงต้องวางเกณฑ์ความเสี่ยงด้าน ESG ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลควบคู่กับการสนับสนุนธุรกิจที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

โดยทีทีบีได้วางกรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืนมาตั้งแต่ 4-5 ปีแล้ว ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) และสังคม (Social) ที่ค่อนข้างแข็งแรงมาก สิ่งที่ธนาคารจะก้าวต่อไปในอนาคตคงหนีไม่พ้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะเข้าไปช่วยในเรื่องการให้สินเชื่อเพื่อปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ควบคู่ไปกับการทำให้ทุกคนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง เพราะเชื่อว่าจะเป็นการสร้างความยั่งยืนในระยะยาวได้

นายกมลพันธ์  ลักษณา หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า “ธนาคารมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวกับ ESG เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนลูกค้าที่ประกอบกิจการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมองเห็นโอกาสสำคัญทางธุรกิจ ซึ่งทีทีบีเป็นธนาคารแห่งแรกที่ออกตราสารหนี้สีเขียว (Green Bond) และตราสารหนี้สีฟ้า (Blue Bond) นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงรายการสินเชื่อต้องห้าม (Exclusion List) อาทิ อุตสาหกรรมที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเหมืองถ่านหิน โรงไฟฟ้าถ่านหิน และอุตสาหกรรมยาสูบ รวมถึงออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability Linked-loan) และลดการสนับสนุนสินเชื่อแก่ลูกค้าที่ดำเนินการธุรกิจอันก่อให้เกิดผลต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เช่น ธุรกิจที่ปล่อยคาร์บอนสูง อีกทั้งช่วยลูกค้าผ่านบริการทางการเงินต่าง ๆ อย่างการรวบหนี้ให้ลูกค้าเพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินในภาพรวม และทำให้ทุกคนเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้นจากการปลดล็อกเกณฑ์ความเสี่ยงเปิดให้เพศเดียวกันสามารถกู้ร่วมกันได้ โดยธนาคารพร้อมปรับเปลี่ยนเพื่อพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนและทุกบริบทของการเปลี่ยนแปลง” 

“การประเมินผลด้าน ESG ของธนาคารไทย โดย Fair Finance Thailand ค่อนข้างเจาะลึกและเข้มข้น มีหลายเรื่องทำได้ยากแต่ธนาคารเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำเพราะมีผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งการได้รับรางวัลธนาคารที่มีผลคะแนน ESG สูงสุดเป็นอันดับ 1 ติดต่อกัน 4 ปี และรางวัลพัฒนาการสูงสุด 5 ปีต่อเนื่อง ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง” นายปิติ กล่าว
TTB