Smart Investment

DITTO-OTO-WAVE มุ่งสู่เมกะเทรนด์ Climate Tech


02 มิถุนายน 2566
Mr.Data

เงื่อนไขการกีดกันทางการค้ารูปแบบใหม่ ที่ไม่ใช่การตั้งกำแพงภาษี! ที่ทั่วโลกกำลังพูดถึงและตระหนักอย่างยิ่งในเวลานี้คือ...เรื่องของการลดโลกร้อน หรือ NetZero หรือ การลดคาร์บอนให้เป็นศูนย์ 

ถอดรหัส 3 หุ้น -2.jpg

การทำ Carbon Footprint หรือปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตทั้งหมด ว่าในแต่ละขั้นตอนการผลิต มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจำนวนเท่าใด ซึ่งจะเป็นการตอบโจทย์ การลดคาร์บอนที่ทางการกำหนดไว้ได้แทน

นับถอยหลัง 1 ตุลาคม 2566 ที่จะถึงนี้...มาตรการปรับภาษีคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดนของสหภาพยุโรป หรือ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) จะมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบ 

โดย เหล็ก พลาสติก และอะลูมิเนียม จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับความเสี่ยงจากมาตรการดังกล่าว ผู้ประกอบการจะรักษาฐานลูกค้าเดิมได้ต้องรายงานปริมาณคาร์บอนในกระบวนการผลิต

CBAM ถือเป็นหนึ่งในมาตรการภายใต้นโยบายแผนปฏิรูปสีเขียวของสหภาพยุโรป เพื่อป้องกันการรั่วไหลของคาร์บอน (Carbon Leakage) และลดความเหลื่อมล้ำในการแข่งขันจากผู้ผลิตต่างชาติที่มีมาตรการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เข้มข้นน้อยกว่าสหภาพยุโรป

Climate Tech หรือเทคโนโลยีที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ ถือเป็นธุรกิจที่อยู่ในเมกะเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate change) ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจปลูกป่า ขายคาร์บอนเครดิต 

การให้บริการที่ปรึกษาครบวงจรเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต เริ่มตั้งแต่ Carbon Footprint ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับ Audit ของบริษัท เข้ามาทำหน้าที่ดูแลวางแผนจัดการบริหารคาร์บอนเครดิต แนะนำวิธีการที่ทำให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายหรืองบประมาณที่เกี่ยวกับคาร์บอนเครดิตให้มากที่สุด 

หากคาร์บอนเครดิตไม่พอ ก็ทำหน้าที่ในการเป็นตัวกลางในการ “ซื้อ” คาร์บอนเครดิตมาให้ครบตามจำนวนที่ปล่อย ในทางกลับกันหากใช้คาร์บอนเครดิตน้อย จนเหลือหรือมีมากพอที่จะ “ขาย” บริษัทที่ปรึกษาก็จะทำหน้าที่ตัวกลางในการขายคาร์บอนเครดิตให้กับบริษัท

สัปดาห์นี้ Mr.Data พามารู้จัก  บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (DITTO) ที่กำลังแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจใหม่ เพื่อสร้าง New S Curve ผ่านการโปรเจคปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เปิดให้เอกชนขออนุญาตดูแลรักษาป่าเป็นโครงการหนึ่งที่มีความสำคัญในการช่วยลดก๊าซเรือนกระจก โดย บริษัท สยาม ทีซี เทคโนโลยี จำกัด บริษัทย่อย DITTO ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมโครงการ ได้รับจัดสรรพื้นที่ปลูกป่าชายเลน จำนวน 11,448 ไร่ เป็นเวลา 30 ปี เพื่อใช้ประโยชน์ทางคาร์บอนเครดิต

บล.บัวหลวง ประเมินว่า หาก DITTO เริ่มดำเนินโครงการในปี 2566 จะใช้เวลา 3 ปี ที่จะเริ่มรับรู้คาร์บอนเครดิตในปี 2569 โดยคาดเงินลงทุนเริ่มต้นในปีแรกจะอยู่ที่ราว 160-170 ล้านบาท และค่าดูแลรักษาตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไปจะอยู่ที่ 30 ล้านบาท/ปี 

โดยตั้งแต่ปี 2569 คาดว่า DITTO จะได้รับคาร์บอนเครดิตต่อปีอยู่ที่ราว 1 แสนตัน/ปี (สัดส่วน 90%)

ทั้งนี้ หากอิงจากตลาดในต่างประเทศอย่างยุโรปราคาตอนนี้อยู่ที่ราว 70 ยูโร หรือ 2,600 บาทต่อตัน จะสามารถสร้างกำไรในปี 2569 ได้ราว 230 ล้านบาท สร้างกำไรส่วนเพิ่มได้มากกว่า 50% ต่อปี จะครอบคลุมต้นทุนทั้งหมดที่ลงทุนไปใน 3 ปีแรก และจะสร้างกำไรอย่างต่อเนื่องไปอีก 26 ปีที่เหลือ ซึ่งคาดว่าในอนาคตราคาคาร์บอนเครดิตจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องอย่างแน่นอน

ผลประกอบการย้อนหลัง DITTO ปี 2563-ไตรมาส 1/66
2563         กำไรสุทธิ 114.20 ล้านบาท
2564        กำไรสุทธิ 200.68 ล้านบาท
2565        กำไรสุทธิ 234.75 ล้านบาท

ตามมาด้วย  บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) (OTO) ผู้นำตลาด Contact Center และ Call Center ชั้นนำของเมืองไทย ที่แตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจ Climate Tech โดย OTO ได้มีการจัดตั้ง บริษัท ซีซีเอส คาร์บอน เคลียร์ โซลูชั่น(Carbon Clear Solution Company Limited ทำธุรกิจให้บริการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตครบวงจร 

และเร็วๆนี้ เตรียมเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เพื่อเพิ่มฐานรายได้ประจำ (Recuring Income) ให้กับบริษัทฯ คาดจะช่วยผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการบุ๊กกำไรโรงไฟฟ้าเข้ามาในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากมีรายได้ที่แน่นอน 

ผลประกอบการย้อนหลัง OTO ปี 2563-ไตรมาส 1/66
2563        ขาดทุนสุทธิ 48.85 ล้านบาท
2564        กำไรสุทธิ     55.68 ล้านบาท
2565        ขาดทุนสุทธิ 116.22 ล้านบาท 
ไตรมาส 1/66         กำไรสุทธิ    32.46 ล้านบาท 

ขณะที่ บริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) (WAVE) โครงสร้าธุรกิจในปัจจุบัน ประกอบด้วย 1.ธุรกิจให้บริการด้านคาร์บอนเครดิตครบวงจร ผ่านบริษัท Wave BCG 2.ธุรกิจโรงเรียนสอนภาษาวอลล์สตรีท (Wallstreet และ 3. ธุรกิจด้านสุขภาพและกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ที่ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท WAVE Wellbing 

ทั้งนี้ Wave BCG ทำธุรกิจ Carbon Credit ครบวงจร ให้บริการด้านการเป็นที่ปรึกษาสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย Carbon Credits การหาและบริหาร Climate Project สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัท สนับสนุนการขึ้นทะเบียน Carbon Credits การตรวจสอบการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัท การจัดหา Carbon Credit ให้องค์กรในไทยและ SEA รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีด้าน Climate Tech/ Sustainability Tech

ผลประกอบการย้อนหลัง WAVE ปี 2563-ไตรมาส 1/66
2563            ขาดทุนสุทธิ 201.09 ล้านบาท
2564            ขาดทุนสุทธิ 692.76 ล้านบาท
2565            ขาดทุนสุทธิ 65.81 ล้านบาท 
ไตรมาส 1/66   ขาดทุนสุทธิ 11.43 ล้านบาท

บล.บัวหลวง ประเมินว่า ในภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวน หุ้นเชื่อมโยง Carbon Credit คาดเป็นกลุ่มที่จะเล่นดีกว่าตลาด อย่างต่อเนื่อง ด้วยนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่รัฐบาลทั่วโลกให้การสนับสนุน