Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 06-06-23


06 มิถุนายน 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 06-06-23

06-06-23  สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ

***สวัสดีค่ะ..พักมาหลายวันแล้ว คงได้ชาร์จพลังกันมาเต็มที่เลย!! มาค่ะลุ๊ยยยยย!!! ทรงของสัปดาห์นี้เจ๊จิ๋มว่าน่าจะดีนะ กูรูหุ้นประเมินว่าสัปดาห์นี้ SET INDEX มีแนวรับที่ 1,520 และ 1,500 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,545 และ 1,555 จุด โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพ.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์การเมืองในประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ค. ข้อมูลนำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ค. ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/66 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ค. ของจีน อาทิ ดัชนี PMI ภาคบริการ ดัชนีราคาผู้บริโภค และดัชนีราคาผู้ผลิต

***สัปดาห์ที่แล้วเจ๊ค้างเรื่องหุ้นดีๆ ที่จะนำมาแนะนำกันค่ะ เริ่มจาก TSE เลย!!! มีผู้บริหารสวย-เก่ง "ดร.แคทลีน มาลีนนท์" เป็นแม่ทัพหญิงคุมการบริหาร ออกมาส่งสัญญาณแนวโน้มผลงานไตรมาส 2/66 ว่าจะโตกระฉูด!!! เพราะได้รับอานิสงส์โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Onikoube ในประเทศญี่ปุ่น ที่มีกำลังการผลิต 133 เมกะวัตต์ ได้เริ่มขายไฟเข้าระบบตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีการประเมินว่าโรงไฟฟ้าญี่ปุ่นจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท 

***นอกจากนี้ TSE ได้วางเป้าหมายเรื่องเข้าร่วมประมูลโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรอบ 2 ของ กกพ.ตั้งเป้าจะได้เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 150 เมกะวัตต์ และในอีก 7 ปีข้างหน้าวางเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตรวมราว 500 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าทั้งในไทยและญี่ปุ่นรวมทั้งหมด 35 โครงการ กำลังการผลิตรวม 286.2 เมกะวัตต์ และ COD แล้ว 133 เมกะวัตต์

***SOLAR ก้อเป็นอีกหุ้นที่น่าสนใจไม่น้อย บิ๊กบอส "สิทธิชัย กฤชวิวรรธน์" ประเมินว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66  ยังคงเติบโตได้อย่างโดดเด่น เป็นผลจากความต้องการใช้แผงโซลาร์เซลล์คึกคักหลังจากค่าไฟฟ้าพุ่งแรง ทำให้ผู้คนต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในด้านพลังงาน จึงหันมาใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น หนุนให้ความต้องการใช้แผงโซลาร์เซลล์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นโอกาสที่ดีของบริษัทฯ ขณะเดียวกันคาดว่าจะสามารถปิดงานในส่วนของธุรกิจ EPC ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย 

***ส่วนภาพรวมทั้งปีนี้ SOLAR ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20-30%ในส่วนของธุรกิจเดิม ซึ่งยังไม่นับรวมธุรกิจใหม่ที่จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีก พร้อมทั้งมั่นใจว่าจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้อย่างแน่นอน โดยปัจจัยหลักจะมาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์, งาน EPC โซลาร์รูฟท็อป, การจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าที่ปัจจุบันมีอยู่จำนวน 9 เมกะวัตต์ และการจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Private PPA

***ไปต่อกับหุ้นพลังงานอีกตัวค่ะ SSP คนดีที่หนึ่งในใจเจ๊จิ๋ม...ผู้บริหารออกมาบอกว่าอย่างมั่นใจว่าผลดำเนินงานในปี 2566 นี้ ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผน พร้อมกันนี้ยังมองหาโอกาสเพื่อเข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆในประเทศ ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน และการใช้กลยุทธ์ทำ M&A ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาปิดดิล รวมถึงการเข้าลงทุนในเวียดนามตามแผนพัฒนาพลังงาน PDP8 ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุน ทำให้พอร์ตกำลังผลิตเติบโตเท่าตัวในอีก 3 ปี 

***อีกเรื่องที่เจ๊ว่าพวกเราควรต้องรู้เกี่ยวกับ SSP คือเค้าเป็นบริษัทที่มีฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง รองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบ โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เปิดดำเนินงานแล้ว 236 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายในอีก 3 ปี มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นเท่าตัวทะลุ 500 MW โดยมีสัดส่วนจากแหล่งพลังงานใหม่ๆ เช่น พลังงานลม หรือ ชีวมวล เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ สร้างผลตอบแทนที่ดีแบบยั่งยืน

***PTG นี่ก้อเริ่ดดดดดดดดสุดๆ ผู้บริหารออกมาเปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 ว่ายังสามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่น เป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากเศรษฐกิจฟื้นตัวและการท่องเที่ยวคึกคัก ส่งผลให้ PTG มียอดขาย Oil และ Non-Oil เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงมองว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

***ส่วนท่านที่อยากรู้เรื่องบลงทุนของ PTG ในปี 2566 มีข้อมูลตรงนี้นะ!!! บริษัทฯ วางไว้ที่ จำนวน 5,000-6,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นการลงทุนขยายและปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน จำนวน 1,000-1,500 ล้านบาท และการเพิ่มจุดให้บริการธุรกิจ Non-Oil จำนวน 2,000-2,500 ล้านบาท รวมทั้งเพื่อรองรับธุรกิจใหม่ (New Businesses) จำนวน 1,500-2,000 ล้านบาท

***ไม่ได้หายไปไหนนะคะคุนข๋า TQR ยังยืนหนึ่งในใจคนสวยค่ะ ..มีสายรายงานว่าไม่ต้องเป็นห่วงทีมบริหารที่นำโดย "ขุ่นพี่หนึ่ง-ชนะพันธุ์" เค้าทำงานกันอย่างหนักหน่วง!!! ดังนั้นไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 ยังมีทิศทางที่ดีเติบโตได้ต่อเนื่อง จากธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) ทั้ง การประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพ (Professional Indemnity) การประกันภัยไซเบอร์ ประกันภัยทรัพย์สินและการทำงานร่วมกับ TQM เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวกับ ที่อยู่อาศัย การท่องเที่ยว การก่อสร้าง สุขภาพ และการพัฒนาแพลตฟอร์ม ส่วนธุรกิจนายหน้าประภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business) ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง

***หุ้นดีที่เจ๊จัดมาแนะนำให้กับแฟนคลับจะพลาด IND ไปไม่ด๊ายยยยย!!! "ดร.พรลภัส ณ ลำพูน" ผู้บริหารสวย-เก่ง-วิชั่นไกล-ขาลุ๊ยยยย!!! ประเมินแนวโน้มผลงานไตรมาส 2/66 ทั้งรายได้และกำไรสุทธิจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา และมั่นใจว่าปีนี้รายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 15-20 %โดยมีแรงหนุนจากอุตฯก่อสร้างในส่วนของภาครัฐฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากการที่ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งรัดให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสเข้าร่วมประมูลโครงการออกแบบและก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มอีกหลายโครงการ รวมถึงการทยอยรับรู้รายได้ Backlog ที่มีในมือราว 2,000 ล้านบาท 

***ปิดท้ายที่ SA เปิดหัวว่า "ส่งซิกครึ่งปีหลังแรงทะลุโลก ยืนเป้ารายได้ปี 66 โตเกิน 130% ทุบสถิติใหม่" ว๊าววววว!!! สุดยอด!! เร้าใจสุดๆ บิ๊กบอสคนเก่ง “ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ” ส่งซิกว่าแนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังโตแรง จากแผนทยอยโอนโครงการ Landmark @ MRTA Station ประมาณ 1,500 ล้านบาท ทยอยโอนโครงการแนวราบอีก 3 โครงการ รวมทั้งทยอยโอนงานกลุ่ม Ready to move อีกทั้งแนวโน้มงานบริการก้อมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมกันนี้ได้ประกาศกลยุทธ์ปรับสัดส่วนรายได้อสังหาแนวสูง-แนบราบ 50-50 เพื่อสร้างสมดุลรายได้ เร่งขยายกิจการโรงแรมและร้านอาหาร หนุนอนาคตเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

***"SA มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวสูงอยู่ระหว่างการพัฒนา (Under Development)ทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 26,000 ล้านบาท และปัจจุบันมี Backlog มูลค่ารวมประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งจากโครงการที่เราดำเนินการอยู่นี้ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างรายได้ในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 130% จากปีก่อน และสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้" พี่ขจรศิษฐ์กล่าว (เจ๊ไม่ได้กล่าวนะคะ ^___^ )